คาวาซากิเผยโฉมโมเดลใหม่ล่าสุด Ninja ZX-4R รถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตทรงพลัง เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง โดดเด่นในคลาส 400cc เป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน พร้อมจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมอีกมากมาย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ - 2 เมษายน 2566
บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำทัพรถจักรยานยนต์หลากหลายรุ่น เข้าร่วมประชันโฉมภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ซึ่งมีดาวเด่นเป็นสุดยอดรถจักรยานยนต์ซุปเปอร์สปอร์ต โมเดลใหม่ล่าสุด Ninja ZX-4R จอดท้าทายสายตาผู้เข้าร่วมงาน และอีกหนึ่งไฮไลท์กับรถจักรยานยนต์สปอร์ตครุยเชอร์ใหม่ Eliminator ขนาด 400cc. รวมถึง Versys 650 ปรับโฉมใหม่เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นเมื่อยามขับขี่ นอกจากนี้คาวาซากิยังยกทัพยนตรกรรมอีกหลากหลายรุ่น ที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน และสะท้อนภาพลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนาอย่างไร้ที่สิ้นสุด ในฐานะแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย
คาวาซากิได้ผลักดันให้เกิดการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ ไปยังผู้คนที่มีเป้าหมายในการค้นหารถจักรยานยนต์ในฝันตามแนวทางของตนเอง ผ่านกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ต่างๆ อาทิ Kawasaki Riding Clinic ที่เปิดโอกาสให้ทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ในฝันของคุณก่อนตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำในการขับขี่จักรยานยนต์เบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการขับขี่แบบมีคลัทช์ก็จะมีเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลเป็นอย่างดีเช่นกัน ต่อด้วยกิจกรรม Kawasaki Circuit Ride กิจกรรมที่สร้างความประทับใจกับลูกค้าเป็นจำนวนมากมีทั้งการเรียนการสอนทักษะการขับขี่ในสนามแข่งขัน และการทดสอบรถจักรยานยนต์บนสนามแข่ง เป็นต้น
คุณเจนจิรา สุวรรณสิงห์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “คาวาซากิเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้รถจักรยานยนต์คาวาซากิเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นรถจักรยานยนต์ที่คนไทยชื่นชอบและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คาวาซากิจึงวางแผนการจัดกิจกรรมการขับขี่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าคาวาซากิ และเติมเต็มความสนุกสนานในการขับขี่”
ดาวเด่นของงานที่บูธคาวาซากิ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023
Ninja ZX-4R
ด้วยตำแหน่งทางการตลาดที่วางไว้อย่างสมบูรณ์แบบ Ninja ZX-4R คันนี้ คือเวอร์ชั่นรถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตขนาด 400 ซีซี ที่ให้ความเร้าใจที่ยากจะหาคู่เปรียบเทียบได้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์สี่สูบเรียงของ Ninja ZX-4R เป็นกุญแจสำคัญของความสนุกสนานในการขับขี่รถรุ่นนี้ ที่ได้ส่งผ่านประสิทธิภาพที่บดบัง รถรุ่นอื่นในคลาส 400cc ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 55kW (75PS) และมี Redline ที่สูงกว่า 15,000 รอบต่อนาที ทำลายทุกขีดจำกัด
ส่วนควบคุมอิเล็กทรอนิคส์ ECU ใช้พื้นฐานเดียวกับ Z H2 รุ่นเรือธงของคาวาซากิ ทั้งเกรี้ยวกราดและดุดัน โดยมี ETV (Electronics Throttle Valves) ที่มีขนาดใหญ่ถึง ø34 mm ที่ทำให้ตอบสนองการบิดคันเร่งอย่างดีเยี่ยม และทำให้ง่ายต่อการทำงานในส่วนของระบบต่างๆ ภายในรถจักรยานยนต์รุ่นนี้เช่น KTRC, การเลือกโหมดการขับขี่ และการใช้งานควิกชิพเตอร์ (ในรุ่น SE)เสียงอันเร้าใจของเครื่องยนต์ Ninja ZX-4R มาจากท่อไอเสียที่ได้แรงบันดาลใจจาก Ninja ZX-6R เพื่อให้ได้กำลังสูงสุดและเสียงเร้าใจ ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย
แรมแอร์ที่อยู่ตรงกลางเป็นฟีเจอร์ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของโมเดล Ninja ZX โดยช่องทางเดินอากาศของ Ninja ZX-4R ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับ Ninja H2 ซึ่ง Know-how นี้จะเพิ่มอัตราการไหลของอากาศและเพิ่มความดันอากาศทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นทุกความเร็วรอบ ทั้งยังออกแบบมาให้ป้องกันน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ในการขับขี่ในขณะฝนตกด้วย
ระบบกันสะเทือน High-Grade Suspension SFF-BP (Separate Function Fork – Big Piston) Horizontal Back-link Rear Suspension ระบบรองรับน้ำหนักด้านหน้าถูกติดตั้งมาเป็นระบบ SFF-BP ของ SHOWA ทำให้ Ninja ZX-4R สามารถขับขี่ได้ทั้งในสนามแข่งและรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในส่วนของโช้คอัพหลัง เป็นแบบ Horizontal Back-Link ที่ออกแบบมาจาก Ninja ZX-10R (ในรุ่น SE สามารถปรับ Preload ที่โช้คอัพหน้าได้)
เรือนไมล์ TFT Colour Instrumentation with Circuit Mode หน้าจอ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ที่สามารถเลือกโหมดได้ (Normal, Circuit) ตัวหน้าจอจะแสดงผล ความเร็ว รอบเครื่อง ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ เกจวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เกจบอกระยะทาง อุณภูมิน้ำหล่อเย็น นาฬิกา แบตเตอรี เวลาต่อรอบ เตือนการเข้ารับบริการ โหลดการขับขี่ ควิกชิพเตอร์ และอื่นๆ
สร้างประสบการณ์ใหม่ในการควบคุมฟังชั่นค์ต่างๆ ผ่านระบบ Smartphone Connectivity โดยหน้าจอ TFT มี Built in Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของผู้ใช้รถโดยเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ซึ่งมีฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลรถ และตั้งค่าการขับขี่ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์ได้เลย ทำให้ Ninja ZX-4R สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น รองรับสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่มีพิษสงรอบตัวยิ่งกว่ารุ่นใดๆ ในคลาส 400cc ทุกรุ่น
ราคา Ninja ZX-4R 320,000 บาท
ราคา Ninja ZX-4R SE 360,000 บาท
Eliminator
Eliminator คือรถฟรีสไตล์ครุยเซอร์ใหม่ขนาด 400 ซีซี คือเหตุผลที่คุณจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพิ่มความตื่นเต้นใหม่ๆ ให้กับการเดินทางของคุณ กระโดดขึ้น แล้วสัมผัสถึงการปลดปล่อยความเครียดจากชีวิตประจำวันของคุณให้มลายหายไป โอบรับอิสรภาพที่อยู่บนท้องถนน
Eliminator คือรถฟรีสไตล์ครุยเซอร์ใหม่ขนาด 400 ซีซี คือเหตุผลที่คุณจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพิ่มความตื่นเต้นใหม่ๆ ให้กับการเดินทางของคุณ กระโดดขึ้น แล้วสัมผัสถึงการปลดปล่อยความเครียดจากชีวิตประจำวันของคุณให้มลายหายไป โอบรับอิสรภาพที่อยู่บนท้องถนน
Eliminator ทำให้จิตวิญญาณของคุณสดชื่นขึ้น ขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกันกับ Ninja 400 และเฟรมโครงตาข่ายที่มีน้ำหนักเบา ตำแหน่งการขับขี่เป็นธรรมชาติซึ่งรองรับผู้ขับขี่ได้หลากหลาย ช่วยให้มั่นใจตั้งแต่วินาทีที่คุณนั่ง
น้ำหนักที่เบา จุดศูนย์ถ่วงรวมที่ดี จะช่วยให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยความเร็วต่ำได้ มาพร้อมกับหน้าจอ LCD หน้าจอดิติตอล ที่ออกแบบใหม่ที่ให้ความโมเดิร์นและคอมแพ็ค ซึ่งจอ LCD นี้เป็นองค์ประกอบทื่ทำให้ Eliminator คันนี้สมบูรณ์ ด้วยลักษณะและคาเรคเตอร์ที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ Eliminator เป็นคู่หูในการขับขี่ในทุกๆ วัน
ราคา Eliminator 224,900 บาท
Versys 650
Versys 650 โฉมใหม่เป็นหนึ่งในรุ่นที่ผู้ขับขี่เข้าใจมันได้เป็นอย่างดี คู่หูการเดินทางท่องเทียวและผจญภัยขนาดกลางกับสไตล์ใหม่และเพิ่มความสะดวกสบายที่มากขึ้น มีระบบ KTRC เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะออกสำรวจนอกเมืองหรือฝ่าฟันการจราจรในเมืองก็ตาม รวมถึง Windshield ปรับระดับได้ถึง 4 ระดับ โครงสร้างตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยเพิ่มการป้องกันลมได้อย่างดีเยี่ยม เรือนไมล์ TFT แบบ full-colour ขนาด 4.3 นิ้วใหม่ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
Versys 650 ได้ถูกดีไซน์ใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Versys 1000 ปรับรูปลักษณ์ให้เข้ากับตระกูลที่แข็งแกร่งอย่าง Versys โดดเด่นด้วยไฟ LED ใหม่ที่ทันสมัย Cowling ทั้งหมดถูกออกแบบใหม่ให้ความปราดเปรียวและน่าดึงดูด อีกทั้งยังช่วยให้ระบายอากาศรอบตัวผู้ขับขี่ได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หรือการขับขี่เพื่อความสนุกสนาน
ราคา Versys 650 329,500 บาท
Versys 650 โฉมใหม่เป็นหนึ่งในรุ่นที่ผู้ขับขี่เข้าใจมันได้เป็นอย่างดี คู่หูการเดินทางท่องเทียวและผจญภัยขนาดกลางกับสไตล์ใหม่และเพิ่มความสะดวกสบายที่มากขึ้น มีระบบ KTRC เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะออกสำรวจนอกเมืองหรือฝ่าฟันการจราจรในเมืองก็ตาม รวมถึง Windshield ปรับระดับได้ถึง 4 ระดับ โครงสร้างตัวถังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยเพิ่มการป้องกันลมได้อย่างดีเยี่ยม เรือนไมล์ TFT แบบ full-colour ขนาด 4.3 นิ้วใหม่ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
Versys 650 ได้ถูกดีไซน์ใหม่โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Versys 1000 ปรับรูปลักษณ์ให้เข้ากับตระกูลที่แข็งแกร่งอย่าง Versys โดดเด่นด้วยไฟ LED ใหม่ที่ทันสมัย Cowling ทั้งหมดถูกออกแบบใหม่ให้ความปราดเปรียวและน่าดึงดูด อีกทั้งยังช่วยให้ระบายอากาศรอบตัวผู้ขับขี่ได้โดยตรงเพื่อเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หรือการขับขี่เพื่อความสนุกสนาน
ราคา Versys 650 329,500 บาท
พร้อมกันนี้ คาวาซากิยังยกทัพรถอีกหลากหลายรุ่นมาให้ชมไม่ว่าจะเป็น KLX230, KLX230S, KLX230SM, KLX230SE, KLX140F, KLX110, KX252, Ninja ZX-10RR, Ninja ZX-6R, Ninja 650, Ninja 400, Z1000, Z900, Z650, Versys 1000, KLR 650, Vulcan S, Z650RS, Z900RS
มาร่วมจัดแสดง โดยผู้จองรถจักรยานยนต์คาวาซากิภายในงานจะได้รับข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายสนใจเข้าชมรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 (44rd Bangkok International Motor Show 2023) ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 ณ บูธรถจักรยานยนต์ Kawasaki บูธหมายเลข C02 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
COMMENTS