ในโอกาสครบรอบ 120 ปี รอยัล เอ็นฟีลด์ได้นำเอารถจักรยานยนต์รุ่น Classic ที่เป็นตำนานของแบรนด์มามองในมุมใหม่ เพื่อการสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ขึ้นตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ All-New Royal Enfield Classic 350 รถจักรยานยนต์คลาสสิกเหนือกาลเวลา ซึ่งถูกพัฒนามาให้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์กว่าที่เคยให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงมีความงามล้ำเลิศ และความมั่นใจในรถจักรยานยนต์รุ่น Classic เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำคัญ
นอกจากนี้รอยัล เอ็นฟีลด์ก็จะเริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ โดยร่วมมือกับ GPX ซึ่งถือเป็นการประกาศครั้งสำคัญที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในประเทศไทย และต่างประเทศของแบรนด์ อีกทั้งเป็นการประกอบ และผลิตรถจักรยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนอกเหนือจากโรงงานในเมืองเชนไน (Chennai) ประเทศอินเดียครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของแบรนด์ด้วย
คุณบี โกวินดาราจาน, กรรมการบริหาร, รอยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวถึงการเปิดตัวรอยัล เอ็นฟีลด์ Classic 350 และการเริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยว่า “รอยัล เอ็นฟีลด์พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเติบโตในประเทศต่าง ๆ และขยายเซ็กเมนต์รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิลเวททั่วโลกมาตลอด ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเรากลายเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ระดับโลกอย่างแท้จริง ด้วยการเติบโตในระดับนานาชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และละตินอเมริกา ขณะนี้เรามีตัวแทนจำหน่ายใน 60 ประเทศ ด้วยมุมมองเชิงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น และเพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบทางการตลาดที่สำคัญ เราได้ดำเนินการตามแผนของเราในการจัดตั้งโรงงานประกอบรถจักรยายนต์ในประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาใต้ ในขั้นแรกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศการเปิดตัวโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประเทศไทย เรามีแผนกลยุทธ์ในการขยายเครือข่าย ความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศของเรา ความสำเร็จของ Twins 650 และ Meteor นั้นให้แรงบันดาลใจกับเรามาก เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เติบโตอยู่เรื่อย ๆ ของประเทศไทย การตัดสินใจเริ่มประกอบรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยของเรา และการเปิดตัวรอยัล เอ็นฟีลด์ Classic 350 ที่นี่ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของเรา และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น”
มรดกตกทอดของรุ่น Classic นี้มีความเป็นมาย้อนไปถึงปีค.ศ. 1948 ที่รถจักรยานยนต์สุดล้ำในเวลานั้นอย่าง รอยัล เอ็นฟีลด์ โมเดล G2 เป็นรุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบสวิงอาร์มในรถจักรยานยนต์ที่ผลิตเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งสวยงามและมีสมรรถนะที่เชื่อถือได้ โมเดล G2 จึงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบอันแรงกล้าสำหรับ Classic 500 และ Classic 350 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวในปีค.ศ. 2008 นับตั้งแต่เปิดตัว รุ่น Classic นี้ได้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้นิยามใหม่แก่รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิลเวท และก่อให้เกิดการฟื้นคืนชีพของรอยัล เอ็นฟีลด์ โดยเริ่มก้าวเป็นผู้นำระดับโลกในเซกเมนต์นี้ในอีก 12 ปีต่อมา และหลังจากจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 3 ล้านคัน รุ่น Classic ได้สร้างตำนาน ที่เป็นของตัวเอง และ Classic 350 ใหม่ก็พร้อมแล้วที่จะสานต่อตำนานบทนี้ไปข้างหน้า
คุณวิมัล ซุมบ์ลี, หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก, รอยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวย้อนถึงความสำเร็จของ Classic ตลอดหลายปีที่ผ่านมาและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดตัวครั้งนี้ว่า "Classic เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีบทบาทสูงมากในการเติบโตและขยายเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์มิดเดิลเวทในอินเดีย ในขณะเดียวกันก็มีบทบาทสำคัญในการปลดล็อกวัฒนธรรมย่อยที่เฟื่องฟูในส่วนของการขับขี่แบบสบาย ๆ ทั้งในหมู่นักขับอายุน้อยและกลุ่มที่มีประสบการณ์ทั่วโลก All-new Classic 350 สืบสานตำนานนี้ต่อเนื่องไปและสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงภาษาการออกแบบที่เหนือกาลเวลาอย่างที่เราเคยได้สัมผัสมาแล้ว พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่ทันสมัยและเป็นจินตนาการใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ Classic 350 ใหม่ ยังคงรักษารูปลักษณ์ย้อนยุคไว้ได้ครบถ้วน โดยมีเป้าหมายที่จะนำพามรดกตกทอดนี้เดินไปข้างหน้าด้วยการตกแต่งระดับพรีเมียมและลงตัว แชสซีและเครื่องยนต์ที่ยึดเกาะพื้นถนน บวกกับการขับขี่และการควบคุมรถที่เหนือชั้น ด้วยการมุ่งเน้นที่เฉียบคมที่จะเจาะตลาดรถจักรยานยนต์ในกลุ่มมิดเดิลเวท และสร้างความน่าสนใจให้กับชุมชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เรามั่นใจว่า Classic 350 ใหม่ และการผลิตรถจักรยานยนต์ที่โรงงานย่อยในประเทศไทยจะขับเคลื่อนการเติบโต และความทะเยอทะยานมุ่งมั่นของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่อไป”
Classic 350 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สูบเดียว 349cc ชนิดระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ทันสมัยและได้รับความนิยมทั่วโลก ซึ่งเปิดตัวครั้งแรก Meteor 350 ทำให้ All-new Classic 350 สามารถนำเสนออีกระดับของความสะดวกสบาย ความนุ่มนวล และความประณีตในประสบการณ์การขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 349cc แบบฉีดเชื้อเพลิง ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน Classic ให้กำลัง 20.2 bhp ที่ 6100rpm และแรงบิด 27Nm ที่ 4000rpm ส่งผลให้เกิดเสียงดังรบกวนน้อย ขณะที่แรงบิดมีมากพอในทุกรอบเครื่องยนต์ ทำให้การขับขี่สนุกและง่าย และด้วยเพลาบาลานเซอรที่ลดการสั่นสะเทือน ทำให้ Classic ใหม่ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและทรงตัวดีบนท้องถนน การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างแม่นยำและราบรื่น ด้วยธรรมดาเกียร์ 5 สปีดที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ซึ่งมอบอัตราเร่งที่่เร้าใจทั้งในเมืองและนอกเมือง Classic 350 ใหม่ ยังคงรักษาเสียงกระหึ่มของท่อไอเสียไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
Classic 350 ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมนักออกแบบและวิศวกรมากความสามารถที่ศูนย์เทคโนโลยีล้ำสมัยสองแห่งของรอยัล เอ็นฟีลด์ในประเทศอินเดีย และสหราชอาณาจักร โดยมีการสร้างขึ้นมาป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเมื่อ ได้ลองขี่ Classic 350 ใหม่ แชสซีก็ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า ทั้งยังมีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำความเร็วสูงขึ้นขณะเข้าโค้ง และให้ความรู้สึกมั่นคงและยึดเกาะถนนทางตรงได้ดีเยี่ยมเช่นกัน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียดเพื่อให้นั่งบนอานได้อย่างสบายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้หลักสรีระศาสตร์ในการขับขี่ที่ดีขึ้นและการเบรกที่มั่นใจมากขึ้น Classic ให้ความรู้สึกคล่องตัวและตอบสนองได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การขับขี่ในแต่ละครั้งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้น
Royal Enfield Classic 350 มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยโทนสี 9 สี เริ่มด้วย Classic Chrome, Classic Signals, Dark series และ Halcyon series
Classic Chrome เป็นรุ่นพรีเมี่ยมที่โดดเด่น สะท้อนถึงรูปลักษณ์และความรู้สึกที่สวยน่ามองทุกรายละเอียดของรถจักรยานยนต์อังกฤษนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1950 มีให้เลือกในสีทูโทนในสองคู่สี คือ Chrome Red และ Chrome Bronze โดย Chrome series สื่อสัญลักษณ์ที่แท้จริงของอดีตด้วยตรารถถังที่โดดเด่น ซึ่งเสริมแต่งโดยรถจักรยานยนต์รอยัล เอ็นฟีลด์ในยุคปีค.ศ. 1950 ราคา 155,000 บาท
Classic Signals มีให้เลือกในสี Marsh Grey และ Desert Sand ส่วนรูปลักษณ์จะเน้นความเกี่ยวพันระหว่างรอยัล เอ็นฟีลด์กับกองทัพ แต่ละคันจะมาพร้อมกับตราสัญลักษณ์และกราฟิกรวมถึงหมายเลขบนถังน้ำมันที่ไม่ซ้ำกัน ราคา 147,000 บาท
Dark series เป็นรุ่นที่สะท้อนความเป็นหนุ่มสาว ทันสมัยในแบบฉบับชีวิตเมือง โดยมาในสี Stealth Black และ Gunmetal Grey และมาพร้อมกับล้ออัลลอยด์และยางแบบไม่มียางใน ราคา 154,000 บาท
Halcyon series ตามชื่อคือการเฉลิมฉลองมรดกตกทอดของ Classic และสะท้อนถึงรูปลักษณ์คลาสสิกย้อนยุคอันรุ่งโรจน์ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Green, Grey และ Black ราคา 139,900 บาท ทุกรุ่นติดตั้งดิสค์เบรกหน้าและหลังพร้อม ABS แบบ 2 ทิศทาง
ทุกแง่มุมของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ได้รับการอกแบบใหม่ทั้งคัน สะท้อนสไตล์ของรถจักรยานยนต์อังกฤษยุคหลังสงครามอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมความกลมกลืนของเส้นสายและลวดลายที่ไหลจากด้านหน้าไปยังส่วนท้ายที่ยังคงทำให้ Classic 350 เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น มาพร้อมถังทรงหยดน้ำ ไฟหน้าแบบมีปีกหมวกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของรอยัล เอ็นฟีลด์ และไฟหรี่ดีไซน์ใหม่ แผงหน้าปัดแบบ digi-analog ใหม่ มีจอแสดงผล LCD ที่ทันสมัย มีจุดชาร์จ USB อยู่ใต้แฮนด์เพื่อความสะดวกในการชาร์จอย่างรวดเร็วขณะเดินทาง
Classic 350 ใหม่ จะวางจำหน่ายพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งของแท้ (Genuine Motorcycle Accessories) มากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นมาพร้อมกับการออกแบบตัวรถ เพื่อเสริมความปลอดภัย การติดตั้งที่ง่าย และความกลมกลืนไปกับตัวรถ อุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ของรอยัล เอ็นฟีลด์มาพร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 ปี ค่าแรงเช็คระยะ 3 ครั้งฟรี และ Classic 350 Welcome Gift
ผู้ที่สนใจสามารถจองทดลองขับได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Royal Enfield ใกล้บ้าน
#BeReborn #AllNewClassic350 #RoyalEnfieldClassic #RoyalEnfield
COMMENTS