มร.ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจเเละยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการร่วมงานกับเเบรนด์ที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่นเเละได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอย่าง นารายา (NaRaYa) ซึ่งเป็นเเบรนด์ของคนไทยที่สรรค์สร้างทุกลวดลายมาจากหัวใจ ดังเช่นลายช้างเครื่องทรงเเละผ้าไหมสีทองอร่ามปริว สไหวอันสื่อถึงพละกำลังเเละสมรรถนะของยนตรกรรมสปอร์ตเเห่งอนาคตที่จะไม่หยุดนิ่ง นับเป็นการผสมผสาน ระหว่างเทคโนโลยีล้ำยุคเเละศิลปะการออกเเบบของไทยที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและความแตกต่างให้กับยนตรกรรม สปอร์ตไฟฟ้าของเราได้อย่างลงตัว”
พร้อมกันนี้ เอเอเอสฯ ยังขนทัพรถสปอร์ตสมรรถนะสูงหลากรุ่นร่วมจัดแสดง นำโดย ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S), ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo), 911 ทาการ์ 4เอส เฮอริเทจ ดีไซน์ อิดิชัน (911 Targa 4S Heritage Design Edition), คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Cayenne E-Hybrid), คาเยนน์ อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne E-Hybrid Coupe), พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด เอ็กเซ็กคลูทีฟ (Panamera 4 E-Hybrid Executive),พานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด (Panamera 4 E-Hybrid), มาคันน์ (Macan) และ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) ร่วมจัดแสดง ในงานให้ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ปอร์เช่ ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2021 (The 42nd Bangkok International Motor Show) ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ใหม่
ปอร์เช่ ไทคาน (Taycan) รุ่นใหม่ เข้ามาเสริมทัพยนตกรรมสปอร์ตซาลูนพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจากปอร์เช่ น้องใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังและทางเลือกจากแบตเตอรี่สองขนาดความจุ สำหรับขนาด มาตรฐาน Performance Battery รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า entry-level คันใหม่ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) เมื่อทำงานใน overboost mode และ Launch Control; ยกระดับศักยภาพสูงสุดกว่า 476 แรงม้า (350 กิโลวัต์) จากอุปกรณ์พิเศษ Performance Battery Plus สำหรับการทำงานในโหมดปกติ ให้กำลังที่ 326 แรงม้า (240 กิโลวัตต์) หรือ 380 แรงม้า (280 กิโลวัตต์) ตามลำดับ ในฐานะสมาชิกรายล่าสุดของตระกูลรถสปอร์ตไฟฟ้า ไทคานน์ (Taycan) จึงได้รับการเสริมอุปกรณ์ล้ำสมัยที่จะตามมาในรุ่นอื่น หลังจากการปรับโฉม หนึ่งในอุปกรณ์พิเศษที่โดดเด่นคือหน้าจอ แสดงผล colour head-up display ซึ่งสามารถฉายข้อมูลตรงไปยังระดับสายตาของผู้ขับขี่ โดยแบ่งประเภทของการ แสดงผลได้ทั้งในส่วนของ main display section, status section และพื้นที่แสดงข้อมูลชั่วคราว เช่น สายโทรศัพท์เรียกเข้าหรือการสั่งงานด้วยเสียง voice control commands รวมทั้งผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าการ แสดงผลได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอระบบนำทาง navigation display มาตรวัดพลังงาน power meter และข้อมูลอื่นที่จำเป็น
สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามานอกเหนือจากการปรับปรุงระบบ software ต่างๆ คือเฉดสีตัวถังภายนอกใหม่ถึง 7 สีและรูปแบบ การตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ถึงห้ารูปแบบเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่มีทางเลือกในการปรับแต่งปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ได้ตามใจชอบทั้งนี้สีตัวถังทั้ง 7 สีใหม่ ประกอบด้วย Mahogany Metallic, Frozenberry Metallic, Cherry Metallic, Coffee Beige Metallic, Crayon, Neptune Blue และ Ice Grey Metallic สำหรับรูปแบบการตกแต่ง ภายใน 5 รูปแบบประกอบด้วย Black/Chalk เป็นมาตรฐาน, Blackberry และ Blackberry/Slate Grey leather, Graphite Blue/Slate Grey leather-free Race-Tex และ Basalt Black/Meranti Brown OLEA Club Leather
อุปกรณ์พิเศษระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ adaptive air suspension ได้รับการเสริมด้วยฟังก์ชัน Smartlift ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ยกระดับความสูงของช่วงล่างไทคานน์ (Taycan) ได้โดยอัตโนมัติเมื่อขับขี่บนเส้นทาง ที่สุ่มเสี่ยง อาทิ ถนนขรุขระหรือการนำรถเข้าศูนย์บริการฟังก์ชัน Smartlift สามารถปรับเปลี่ยนระดับความสูงของตัวรถ ให้สัมพันธ์กับการขับขี่ แม้แต่การเดินทางบนมอเตอร์เวย์รวมทั้งปรับแต่งเพื่อให้เกิดความสมดุลที่สุดระหว่างสมรรถนะ กับความนุ่มนวลสะดวกสบาย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือระบบ AC on-board charger ซึ่งให้ประสิทธิภาพการชาร์จพลังงานสูงสุดถึง 22 กิโลวัตต์ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์พิเศษที่สามารถเลือกติดตั้งเพิ่มเติมได้
ทางเลือกพละกำลังจากแบตเตอรี่ 2 รูปแบบ
ติดตั้ง single-deck Performance Battery ที่ให้กำลังสูงสุด 79.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสามารถเลือกอุปกรณ์ พิเศษเพิ่มเติม two-deck Performance Battery Plus เสริมประสิทธิภาพด้วยกำลังสูงสุดขยับเพิ่มขึ้นเป็น 93.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ในส่วนของพิสัยระยะการเดินทางสูงสุดเมื่อทดสอบตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำได้ที่ 431 กิโลเมตร และ 484 กิโลเมตร ตามลำดับ
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ให้อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในระยะ เวลาเพียง 5.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้ง 2 ขนาดความจุแบตเตอรี่ ขณะที่สามารถรองรับการประจุพลังงานได้สูงสุดที่ 225 กิโลวัตต์ (Performance Battery) หรือ 270 กิโลวัตต์ (Performance Battery Plus) หมายความว่าแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขนาด จะใช้ระยะเวลาในการชาร์จพลังงานจาก 5 - 80 % ในสภาวะการชาร์จไฟปกติ เพียง 22.5 นาที
นวัตกรรมมอเตอร์ขับเคลื่อนเต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะ
อัตราเร่งที่เร้าใจ พละกำลังมหาศาลอันเป็นคุณสมบัติประจำตัวของยนตรกรรมสปอร์ตสายพันธุ์แท้ รวมทั้งศักยภาพในการถ่าย ทอด พลังขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องน้องใหม่ในรุ่นเริ่มต้นยังคงรักษา คุณงามความดีอันยอดเยี่ยมทั้งหมดของปอร์เช่ ไทคานน์ (Por-sche Taycan) เอาไว้อย่างครบถ้วน
มอเตอร์สมรรถนะสูง permanently excited synchronous บริเวณเพลาคู่หลังมีความยาวเพียง 130 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดเท่ากับกลไกขับเคลื่อนที่ติดตั้งใน ไทคานน์ 4เอส (Taycan 4S) ส่วนของอุปกรณ์ pulse-controlled inverter ซึ่งติดตั้งบริเวณเพลาคู่หลัง สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 600 แอมป์
นอกเหนือจากการทำงานอย่างลงตัวของมอเตอร์เเล้ว รถคันนี้ยังสามารถถ่ายทอดพละกำลังมหาศาลได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ ผ่านชุดส่งกำลัง two-speed transmission ของเพลาคู่หลัง อันเป็นสถาปัตยกรรมระบบขับเคลื่อนชั้นเลิศ เฉกเช่นเดียวกันกับพี่น้องร่วมสายพันธุ์ ติดตั้งระบบประจุพลังงานเหนือระดับ และด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน Cd ที่ต่ำเพียง 0.22 รวมทั้งอัจฉริยภาพด้านระบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมจากการออกเเบบรูปทรงตัวถังที่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ประหยัด และพิสัยระยะเดินทางที่ทำได้ไกลอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมระบบชาร์จพลังย้อนกลับ recuperation power สูงสุดถึง 265 กิโลวัตต์
ดีไซน์ภายนอกสะท้อนภาพ DNA ปอร์เช่
ด้วยงานออกแบบที่เรียบหรู สะอาดตา ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ถ่ายทอดแก่ผู้พบเห็นอย่างตรงไปตรงมา ในฐานะสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นยุคใหม่ของปอร์เช่ ในขณะเดียวกันรถสปอร์ตคันนี้ยังคงรักษาไว้ ซึ่งเอกลักษณ์ของในงาน ออกเเบบในรูปเเบบดั้งเดิมของ DNA ปอร์เช่
อุปกรณ์ที่สร้างความแตกต่างระหว่าง ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในสายพันธุ์ เดียวกัน ได้แก่ ล้ออัลลอย ที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ขนาด 19 นิ้ว ลาย Taycan Aero คาลิเปอร์เบรกสีดำ black anodised ทั้ง 4 ล้อ ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าออกเเบบใหม่ ชายล่างด้านข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลังสีดำ เสริมอารมณ์สปอร์ตเต็มพิกัด เช่นเดียวกับ ไทคานน์ 4เอส (Taycan 4S) ไฟหน้า LED ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
งานตกแต่งภายในห้องโดยสารอันเปี่ยมเอกลักษณ์
ภายในห้องโดยสาร แสดงออกถึงบรรยากาศของการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ของยนตรสปอร์ตล้ำอนาคตนับตั้งแต่ปี 2019 ปลอดโปร่ง ด้วยโครงสร้างและสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์รายรอบ
แผงหน้าปัทม์ทรงโค้งมนขนาด 16.8 นิ้วในตำแหน่งบนสุดของแผงคอนโซลหน้า ให้มุมมองที่ชัดเจนที่สุดจากสายตา ของผู้ขับขี่ คอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอ infotainment ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสาร ตอนหน้าเป็นอุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม ปอร์เช่นำเสนอมิติใหม่ของงานตกแต่งภายใน ที่ปราศจากการใช้วัสดุหนังเป็นครั้งแรกชิ้นงานภายในประกอบด้วยนวัตกรรมวัสดุรีไซเคิลซึ่งล้วนแล้วแต่ตอบโจทย์แนวคิดในการพัฒนารถสปอร์ตพลังงาน ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ สำหรับปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ยังนำเสนองานตกแต่งภายในมาตรฐานของปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ที่เพียบพร้อมไปด้วยวัสดุ กึ่งหนังคุณภาพสูง และได้รับการติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าแบบ comfort seats ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 2 ตำแหน่งด้านหน้าความจุ 84 ลิตร และด้านหลังรองรับได้ถึง 407 ลิตร
เครือข่ายระบบควบคุมช่วงล่างแบบรวมศูนย์ Centrally networked chassis systems
ระบบ Porsche 4D-Chassis Control รับหน้าที่วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้จาก ระบบควบคุมช่วงล่าง ทั้งหมดแบบ real time ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง สปริงที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) หรือระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ adaptive air suspension พร้อมเทคโนโลยี three-chamber รวมทั้งระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) electronic damper control system
ปีแห่งความสำเร็จของปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan)
ปอร์เช่ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของยานพาหนะพลังไฟฟ้า จากตัวเลขยอดส่งมอบ ไทคานน์ (Taycan) ที่มากกว่า 20,000 คัน ไปยังลูกค้าทั่วโลกตลอดปี 2020 นี่คือรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ที่กวาดรางวัลเกียรติยศระดับนานาชาติมาแล้วมากกว่า 50 รางวัล ในตลาดหลักของโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ประเทศจีน ประเทศสิงค์โปรเเละประเทศไทย และสำหรับ ไทคานน์ ใหม่ (The new Taycan) รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังยังสามารถสร้างสถิติ Guinness World Record™ ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่ดริฟท์ได้ยาว ที่สุดโดยเป็น การสไลด์ด้านข้างแบบไม่หยุดรวมระยะทางกว่า 42.171 กิโลเมตร
นอกจากนี้ สำหรับปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ยังนำเสนองานตกแต่งภายในมาตรฐานของปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ที่เพียบพร้อมไปด้วยวัสดุ กึ่งหนังคุณภาพสูง และได้รับการติดตั้งเบาะนั่งคู่หน้าแบบ comfort seats ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 2 ตำแหน่งด้านหน้าความจุ 84 ลิตร และด้านหลังรองรับได้ถึง 407 ลิตร
เครือข่ายระบบควบคุมช่วงล่างแบบรวมศูนย์ Centrally networked chassis systems
ระบบ Porsche 4D-Chassis Control รับหน้าที่วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้จาก ระบบควบคุมช่วงล่าง ทั้งหมดแบบ real time ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง สปริงที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) หรือระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ adaptive air suspension พร้อมเทคโนโลยี three-chamber รวมทั้งระบบ PASM (Porsche Active Suspension Management) electronic damper control system
ปีแห่งความสำเร็จของปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan)
ปอร์เช่ ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของยานพาหนะพลังไฟฟ้า จากตัวเลขยอดส่งมอบ ไทคานน์ (Taycan) ที่มากกว่า 20,000 คัน ไปยังลูกค้าทั่วโลกตลอดปี 2020 นี่คือรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ที่กวาดรางวัลเกียรติยศระดับนานาชาติมาแล้วมากกว่า 50 รางวัล ในตลาดหลักของโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ประเทศจีน ประเทศสิงค์โปรเเละประเทศไทย และสำหรับ ไทคานน์ ใหม่ (The new Taycan) รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังยังสามารถสร้างสถิติ Guinness World Record™ ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าที่ดริฟท์ได้ยาว ที่สุดโดยเป็น การสไลด์ด้านข้างแบบไม่หยุดรวมระยะทางกว่า 42.171 กิโลเมตร
COMMENTS