สำหรับปี 2562 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด โดยจะได้แรงขับเคลื่อนจากยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 7 รุ่น
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมุ่งเน้นปัจจัยแห่งความสำเร็จ 3 ด้านอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม การให้ความสำคัญกับลูกค้าและปรับปรุงเครือข่ายผู้จำหน่าย และการเพิ่มทักษะของบุคลากร เพื่อการสร้างความพึงใจสูงสุดแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้ง 223 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะดำเนินการปรับโฉมใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2564
แม้ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2562 ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตแบบทรงตัว อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังแสดงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อศักยภาพและอนาคตของประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์การดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกประเทศญี่ปุ่น
ด้วยกำลังการผลิตที่สูงถึงเกือบร้อยละ 30 ของกำลังการผลิตในระดับโลกทั้งหมดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกทั้งยังได้รับการยอมรับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก
ด้านการดำเนินงานในระยะกลาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายด้านส่วนแบ่งทางการตลาดไว้สูงกว่าร้อยละ 10 ด้วยการนำเสนอยานยนต์คุณภาพ การพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายและความพึงพอใจลูกค้า ตลอดจนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยบริษัทฯ คาดหวังว่าจะได้รับอนุมัติการส่งเสริมการผลิตครอบคลุมรถไฟฟ้าประเภทพลังงานแบตเตอรี่ (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในเร็วๆ นี้
มร. ชกกิ กล่าวปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้ลูกค้าทั่วประเทศได้มาสัมผัสกับรถยนต์มิตซูบิชิอย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง
“ไม่มีอะไรจะสร้างความประทับใจได้ดีไปกว่าการที่ลูกค้าได้มาสัมผัสกับรถยนต์และการบริการจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ด้วยตัวเอง ด้วยความครบครันทั้งด้านดีไซน์และเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและสมรรถนะที่เป็นเลิศ ท่านจะเข้าใจว่าเหตุใดเราจึงได้รับรางวัลต่างๆ รวมไปถึงการจัดอันดับให้เป็นผู้นำทั้งด้านการบริการลูกค้าและงานขาย รวมถึงด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์” มร. ชกกิ สรุป
COMMENTS